Skip to main content

คำพิพากษาคดีพระวิหาร (พ.ศ. 2556) แบบที่เข้าใจ

Submitted by ezybzy on

เท่าที่ฟังข้อมูลจากสื่อ สามารถสรุปได้ว่า

  • ศาลท่านว่า ท่านตัดสินได้ แล้วไทยก็ถือว่ามีพันธะสัญญาจากการตัดสินของท่าน (แต่คดีอื่นหลังจากนี้ไม่เกี่ยว เพราะเราประกาศว่าไม่รับอำนาจศาล)
  • ศาลท่านว่า ศาลจะตัดสินโดยอยู่ในขอบเขตคำพิพากษาเดิม เรื่องอะไรอื่นที่ขอเพิ่มเติมนอกจากนี้ไม่พิจารณา อาทิเช่นการให้ศาลสั่งให้แผนที่ที่ทางกัมพูชาอ้างถึงใช้ปักปันเขตแดนรอบตัวปราสาทรวมถึงจุดอื่นด้วย
  • ศาลท่านว่า สิ่งที่เป็นประเด็นที่ขัดแย้งกันคือ อะไรคือพื้นที่รอบตัวปราสาท ที่ไทยล้อมรั้วนั่นรึเปล่า หรือ เขตพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรนั้น? ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง เพราะศาลไม่ได้ใช้เส้นบนแผนที่ทั้งเส้น และที่ไทยล้อมรั้วนั้นเป็นของที่เกิดขึ้นภายหลังคำพิพากษาไม่ใช่สิ่งที่ศาลสั่ง
  • สิ่งที่ศาลสั่ง ศาลท่านอ้างถึงคำพิพากษาย่อหน้าที่ 98 ที่ได้อธิบายถึงพื้นที่รอบตัวปราสาทว่าเป็นเช่นไร (ชะง่อนผา) ก็คงต้องไปพิสูจน์ทางภูมิศาสตร์กันต่อไปว่าพื้นที่นั้นมีขนาดใด

สรุปคือ ไทยเสียดินแดนรอบตัวปราสาทเช่นเดิม เนื่องจากคำพิพากษาเดิมศาลให้ยกปราสาทเป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่การเสียเดินแดนอาจจะเสียมากขึ้นกว่ามติคณะรัฐมนตรีปี พ.ศ. 2505 ที่ได้ล้อมรั้วรอบตัวปราสาท แต่จะไม่มากถึง 4.6 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นกับว่าคณะกรรมการปักปันเขตแดนจะปักหลักเขตพื้นที่รอบตัวปราสาทอย่างไร

ผมไม่ถือว่านี่เป็นการเสียเดินแดนเพิ่มเติมนะ แต่เป็นการเสียดินแดนตามที่ควรจะเป็นให้ตรงตามคำพิพากษาเดิม (ที่เขาคาดหวังว่าเราจะไปคุยกันเอง แต่ก็ไม่คุยกันเสียที)

Tags