สัญญาว่านี่น่าจะเป็น entry สุดท้ายที่พูดถึงโออิชิแล้ว (เพราะหมดแก๊กแล้ว ร้านใหญ่ก็ไปมาหมดแล้ว หรือจะลองกลับไปทองหล่อดูว่าจะกลับมาเป็นร้านใหญ่อีกครั้งไหม? หรือว่าจะไปลองดูบรรยากาศที่เมเจอร์อเวนิวดี)
เรื่องก็ไม่มีอะไรมาก วันนี้ไม่มีเรียนหรอก (เพราะเขาหนีไปเที่ยวฟาร์มโชคชัยกัน) แต่ก็มีนัดไปทำการบ้านกับเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน แต่ต้นโผแนวคิดดันหนีไปคอมมาร์ทซะงั้น ก็ไม่เป็นไร นั่งทำกันเกือบเสร็จไปหนึ่งวิชา (จริงๆ ผมวางแผนว่าจะมีคุยอีกวิชาหนึ่งนะ แล้วก็แอบเหลือบเห็นใน Dashboard ของตัวเองว่า เหลืออีกวิชาที่เราแทบจะลืมมันไปแล้ว)
ตอนนั้นก็เที่ยงพอดี ก็เลยคุยๆ กันว่าจะไปคอมมาร์ทกันไหม ผมก็เลยบอกว่าไปๆ แต่ขอไปกินอะไรกันข้างนอกนะ แล้วตอนนั้นก็เกิดข้อกังวลว่ากลัวจะไปถึงงานแล้วไม่ได้เดินเพราะติดเปิดงาน ก็เลยหาอะไรกินแถวๆ ที่เรียน (เป็นครั้งแรกที่ได้ออกประตูหลังของสถาบันออกไปหาอะไรกิน)
กินเสร็จก็เกือบบ่ายสอง (โหนานนะเนี่ย แค่ก๋วยเตี๋ยวเองนะ) ก็นั่งแท็กซี่ไปกัน เสียเวลารถติดตรงอโศกเพชรบุรี, พระราม 9 อยู่นาน ก็ถึงงานเอาบ่ายสาม แล้วเราก็เดินๆ หาของที่อยากได้กัน (ผมสำรวจหา My Passport Studio แล้วก็ได้รับคำตอบจาก Dealer ว่าของยังไม่เข้า) แล้วเราก็แยกย้ายกันช่วง 5 โมงกว่าๆ ซึ่งผมเห็นว่า เออมาแถวนี้แล้ว ลองสาทรดีไหม เพราะจะไปกินตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนที่รู้จักเท่าไร (เหนื่อยที่จะไปกินบ้าง ฯลฯ)
ผมก็เลยเดินจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไปคลองเตยเพื่อขึ้นรถเมล์ไปอาคารเจซีเควินทันที (ระหว่างทางก็พบเรื่องไม่คาดฝัน ไม่เล่าแล้วกัน ปล่อยให้ธรรมชาติลงโทษคนพวกนี้) ถึงที่ก็ยังไม่ดีเท่าไร ลงรถก่อนถึงที่ประมาณ 2 ป้ายรถเมล์ คือถ้ามาจากทางถนนจันทน์ น่าจะเป็นป้ายรถป้ายที่สี่ แต่ผมดันลงป้ายที่สอง ก็เลยได้ออกกำลังกายก่อนกินนิดนึง
ถึงร้านก็ 6 โมงกว่าๆ ปวดเบาอย่างแรงก็เลยต้องสอบถามถึงห้องน้ำก่อน ก็พบว่าร้านนี้มีห้องน้ำในตัว ซึ่งเมื่อเดินเข้าไปเป็นห้องน้ำเล็ก (เล็กกว่าพหล อย่างเห็นได้ชัด) แถมไม่มีที่ฉีดล้างก้นเหมือนกันอีก ซึ่งทำให้คิดว่าไม่ค่อยส่งเสริมการกินเท่าไร (เผื่อจะกินแล้วระบายแล้วกลับมากินต่อ)
เหมือนครั้งก่อน ผมมองแก้วเป็นอย่างแรกว่าเป็นอย่างไร เออรู้สึกว่าแก้วที่นี่สะอาดนะ แสดงว่าพหล คงจะซกม้กเรื่องนี้จริงๆ (ฮาฮา)
ของกินที่นี่ก็ได้มาตรฐานร้านใหญ่ครับ เทียบกับทองหล่อรู้สึกว่าของกินทองหล่อมันหายไปเยอะเลย (ปลาดิบ, ข้าวปั้นบางรูปแบบ, กุ้งอบ) เดินไปส่วนอาหารปรุงสุขก็เห็นได้ชัดว่าร้าน express ของมันน้อยจริงๆ (ตอกย้ำมาก) ของย่างก็เช่นเดียวกัน นอกนั้นก็ดูคล้ายๆ กัน ไปตอนเย็นได้ของหวานเพิ่มอีกนิดหน่อย (วันนี้กินกุ้งด้วย หลังจากพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอดเพราะไม่อยากแกะ)
บรรยากาศโดยรวม ผมคิดว่าร้านนี้จัดการพื้นที่ได้ดี สามารถยัดเก้าอี้ได้เยอะ (รอบละ 300 คนขึ้นไปคงจะได้) มีห้อง VIP แต่ในช่วงที่ไปคนก็ไม่ได้แน่นเท่าไร ไม่ได้เปิดทุกโซนในร้าน (จะว่าไปน่าเรียกว่าเปิดแค่ครึ่งร้านนะ) มีบูธซูชิตั้งแยกออกมาเป็นเอกเทศให้เราเดินวนดูรอบๆ ได้ ด้านหลังก็เป็นเครื่องดื่ม, ของหวาน, สลัด, และผลไม้
มีเป้าว่าจะหยิบกินหลายๆ อย่างก็ทำได้นะ (แน่นอนว่าไม่ได้กินข้าวปั้น) แต่ที่พลาดไปอีกแล้วคือชาบูที่กินต่อไม่ลง เลยไม่คิดจะหยิบมา ที่แปลกใจคือ ร้านนี้ไม่บริการเครื่องจิ้มของอาหารย่างหรือ? (คือตอนไปที่พหล เขาก็หยิบใส่มาในจานอาหารย่างของเรานะ แต่ร้านนี้ไม่มี สงสัยจะให้หยิบเอง) แล้วก็วิธีย่างที่ร้านนี้เหมือนที่พหลคืออาหารเกาหลี แยกจาน ไม่เหมือนกับที่ทองหล่อที่จะหยิบผักใส่จานเดียวกับอาหารเกาหลีเพื่อปรุงก็ได้
วันนี้เด็กเยอะ (แปลกใจเหมือนกันนะ ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนด้วย) เด็กก็เลยเดินวุ่นวายไม่เป็นระเบียบเต็มร้าน ผมก็ได้เห็นวิธีกินของหวานแบบที่ผมไม่คิดจะทำนะ คือหยอดไอศกรีม (Soft Ice cream) ลงบนเจลลี่ (ผมชอบกินเจลลี่เปล่าๆ)
ร้านนี้มีข้อเสนอเด็ดอย่างหนึ่ง คือ ใบเสร็จเอาไว้ลดค่าอาหารมื้อหน้าในวันทำงานปกติได้ 10% ในช่วงวันที่กำหนด (มีหมดเขตนั่นแหละ) แต่ก็มีอุปสรรคอย่างหนึ่งคือเรื่องที่จอดรถที่ให้ฟรีแค่ 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น (ถ้าจะนั่งกินหย่อนนานๆ แบบพหลโยธินก็ทำไม่ได้ เพราะจะเสียค่าจอดรถเพิ่ม)
มื้อนี้ก็ถือว่าได้รับประสบการณ์การกินที่ดี เสียอย่างเดียวที่กลับลำบากหน่อย (ก็ไม่ได้มีบ้านอยู่แถวนั้นนี่นะ)