เห็นข่าวเล็ก ๆ ในเว็บ Hardmac พูดถึงความเปลี่ยนแปลงของ APR ในสหภาพยุโรป ซึ่งโดยสรุปคร่าว ๆ คือ

• eBiscuss แห่งฝรั่งเศสประกาศควบรวมกิจการกับ Macline แห่งเบลเยี่ยม
• ในเยอรมนี Computacenter ประจำเยอรมันนีประกาศร่วมทุนกับ HSD บริษัทแม่ของร้าน Gravis (ที่เคยพูดถึง)
• ICenter แห่งเนเธอร์แลนด์ถูกประกาศขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่

จะว่าไปในประเทศไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้าย ๆ กันนี้เหมือนกัน

• Value System ตัวแทนขายส่งรายใหญ่ประกาศร่วมทุนบริษัท copperwired ซึ่งเป็นเจ้าของ iStudio และ iBeat หลายสาขาในย่านธุรกิจกลางเมือง
• IT City ร้านค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประกาศร่วมทุนกับบริษัท SPV Advance ซึ่งเป็นเจ้าของ iStudio หลายสาขา

ในทางยุโรปก็มีการวิเคราะห์กันว่า น่าจะเกิดปัญหาจากการที่ Apple เริ่มรุกตลาดมากขึ้นโดยการเปิด Apple Store มากขึ้นซึ่งทำให้ตัวแทนจำหน่ายประสบความลำบากในการแข่งขัน การควบรวมกิจการก็น่าจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายทำให้พอจะแข่งขันกันต่อไปได้ ส่วนในประเทศไทยเข้าใจว่าคงเป็นเรื่องของธุรกิจเป็นหลัก ส่วนจะเกี่ยวว่าเป็นสัญญาณว่า Apple จะรุกตลาดเข้ามาเป็นผู้เล่นอีกรายหรือไม่ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่จากพฤติกรรมที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปของ Apple กับสิ่งที่ให้ร้านตัวแทนจำหน่ายบอกลูกค้า (มีปัญหาโทร AppleCare เลยถ้าไม่อยากจะรับลูกค้าไว้เอง) อาจจะเป็นสัญญาณบางประการก็ได้

นี่ก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ที่ MacBook Pro 15” (Late 2008) สเปค 2.53 GHz/320 GB/2 × 2GB/NVIDIA 9400M NVIDIA 9600 GT 512 MB ได้รับใช้ผมมาตั้งแต่ก่อนจะไปเยอรมนี บินไปบินกลับเยอรมนี แล้วก็กลับมาเริ่มทำงานใหม่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็พบปัญหาระหว่างการใช้งานบ้าง แต่สุดท้ายปัญหาที่แก้ไม่หายปัญหาหนึ่งก็เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผมต้องละทิ้งคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไปหาเครื่องใหม่ที่ดีกว่า

แต่… ทั้งหมดนี้ ผมไม่ต้องเสียเงินซื้อเครื่องใหม่นะ AppleCare เป็นผู้จัดการให้หมด เนื่องจากเครื่องนี้มันผ่านการซ่อมแซมในชิ้นส่วนสำคัญมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งทำให้เข้าเงื่อนไขที่สามารถร้องขอให้เปลี่ยนเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ได้

สำหรับขั้นตอนทั้งหมดส่วนใหญ่ต้องดำเนินการเป็นภาษาอังกฤษหมด เพราะปลายสายที่จัดการเรื่องนี้ไม่ได้เป็นผู้ที่สามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ เมื่อคุยตกลงกับถึงเครื่องที่จะนำมาเปลี่ยนทดแทนแล้ว ก็เป็นขั้นตอนการเซ็นเอกสารกฎหมาย ซึ่งทาง Apple จะส่งสัญญาที่มีการทำเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละราย (จริง ๆ จะบอกว่ามันเป็นฟอร์มกลาง ๆ แต่มีการเขียนข้อความให้มันตรงกับเราก็ได้แหละนะ) เราก็เซ็นแล้วก็เมลล์กลับไป แล้วก็เป็นขั้นตอนการรอเครื่องซึ่งทาง AppleCare จะออก Order Number มาให้เราสามารถตรวจสอบได้กับทางระบบ Apple Store

สำหรับเครื่องที่ผมได้มาทดแทนเป็น MacBook Pro 15” (Early 2011) สเปค 2.0 GHz/500 GB/2 × 2GB/AMD 6490M 256 MB ซึ่งก็ค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อยในส่วนของการ์ดแสดงผล แต่ด้วยเหตุผลของ AppleCare ที่ว่าการ์ดแสดงผลตัวนี้เทียบเท่ากับของเดิม (ซึ่งขณะนี้ถูกลดระดับให้อยู่ในกลุ่ม Class B เหมือนกัน) ก็ถือว่าด้วยภาวะจำยอมครับ แหมมันน่าจะได้ 512 MB นะตัวพื้นฐานเนี่ย เพราะเขาก็ไม่สามารถจัดตัว AMD 6790M ให้ได้เหมือนกัน เพราะก็ต้องยอมรับว่าสเปคของเครื่องทดแทนนี้มันดีกว่าของเก่าหมดเลยยกเว้นขนาดของหน่วยความจำของการ์ดแสดงผล (แต่ก็ยังห่วยกว่า NVIDIA GT 330M ของรุ่นที่แล้วนะ แม้ว่าจะอยู่ใน Class เดียวกันแล้ว) ในโอกาสนี้ผมจึงได้ขอสั่งจอพิเศษไปด้วยในตัวเนื่องจากเป็นส่วนที่อัดอั้นมานานกับเครื่องรุ่นเก่า เพราะในขณะนั้นยังไม่มีตัวเลือกการปรับแต่งจอภาพ ในเครื่องใหม่ก็เลยสั่งเพิ่มไปเลย ซึ่งก็คิดอัตราค่าปรับแต่งในราคาปกติ ส่วน AppleCare ที่เหลือนั้นสามารถขอคืนเป็นเงินได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบข้อมูลว่าจะได้คืนเป็นมูลค่าเท่าใด เพราะมันก็มีค่าใช้จ่ายที่ถูกหักไปจากการซ่อมเครื่องในครั้งที่ผ่านมา รวมถึงระยะเวลาที่เหลือด้วย สำหรับประกันของเครื่องทดแทนนี้จะถือว่าเริ่มต้นใหม่นับแต่วันที่เครื่องถูกจัดส่งออกจากโรงงานผลิต (11 เมษายน) ซึ่งด้วยการหยุดยาวสงกรานต์คาดว่าจะทำให้ผมได้เครื่องวันที่ 18 เมษายน

ตอนนี้ก็รอเครื่องทดแทนส่งมา แล้วก็จะมีเวลาในการถ่ายโอนข้อมูลจากเครื่องเก่าไปเครื่องใหม่อยู่ประมาณ 1 เดือนก่อนจะส่งเครื่องเก่าคืนพร้อมกล่องและอุปกรณ์เสริมที่มาด้วย ซึ่งคงใช้เวลาดำเนินการไม่นาน เพราะไม่รู้จะยื้อไว้ทำไมเหมือนกัน (ฮา)

จะเห็นได้ว่าสำหรับคนที่ใช้อะไรอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคแล้วมีปัญหาบ่อย ๆ เช่นผม AppleCare ดูจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลดกังวลจากการใช้งานอุปกรณ์ไปได้มากทีเดียว แล้วก็หวังว่าเครื่องทดแทนจะไม่ประสบปัญหาเดิม ๆ อีกนะ มันน่ารำคาญมาก ๆ ในการใช้งาน

UPDATE: ได้เห็นผลข้างเคียงที่ค่อนข้างอันตราย หาก OS Update มีการตรวจสอบรุ่นเครื่องอย่างละเอียด (เช่นกรณี 10.6.7 ที่ออกมาสำหรับเครื่องรุ่นก่อน MBP Early 2011 และรุ่นเฉพาะสำหรับ MBP Early 2011) ซึ่งหากติดตั้งด้วยวิธีที่เสนอนี้ จะพบปัญหาคือไม่สามารถใช้อัพเดตตัวใดได้เลย และหากฝืนติดตั้ง OS Update ตัวใดตัวหนึ่งก็จะไม่สามารถติดตั้งได้ และอาจจะทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น โปรดใช้วิธีนี้ด้วยความระมัดระวัง

ข้อเขียนนี้ขอจำกัดอยู่แค่ Mac OS X Leopard และ Snow Leopard เท่านั้น เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบการติดตั้ง OS X ในแต่ละรุ่นของระบบปฏิบัติการมีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ ทำให้ไม่สามารถรับประกันได้ว่าวิธีนี้จะนำไปใช้กับ Lion ได้หรือไม่ (ถ้า Lion ยังใช้วิธีตรวจสอบวิธีเดียวกับที่พบเห็นในแผ่น Beta ก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้)

UPDATE: display-mirroring ใช้ได้เลยทันทีเมื่อทำการ Jailbreak แล้วเข้าไปแก้ K48AP.plist

หวังว่าเมื่อวันที่ iPad เฟิร์มแวร์ 4.3 สามารถ Jailbreak ได้เราจะทราบคำตอบต่อไปนี้ว่า

display-mirroring จะใช้งานได้ไหม?

แต่ที่แน่ ๆ ของที่ถูกกั๊กไว้อีกอย่างแต่ใช้งานได้แล้วก็คือ multitasking-gestures ซึ่งใน iOS 4.3 รุ่นที่จะออกในวันที่ 11 มีนาคมจะปิด Feature นี้บน iPad แต่จะถูกเปิดใช้งานใน iPad 2

ตอนนี้ในประเทศไทยมี 3G ไหม? คำตอบคือมี แต่เป็น 3G ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงนั่นก็คือ 3G ผ่านสัญญาณโทรศัพท์ระบบ CDMA ด้วยเทคโนโลยี EV-DO

ที่ว่าล้ำ มันน่าจะล้ำที่ได้ใช้ CPU ตัวใหม่ เทคโนโลยีการผลิตจอแบบใหม่ (ไม่ได้บอกว่าจอความละเอียดที่สูงขึ้นนะ)

ที่ว่าล้า มันน่าจะล้าที่ใช้ภาคโทรศัพท์แบบเก่า จากการที่มันมี iPad2,1 iPad2,2 iPad2,3 ซึ่งคล้าย ๆ กรณี iPhone3,1 iPhone3,2 iPhone3,3 ซึ่งถ้าคราวก่อน iPad1,1 ก็เป็นทั้ง Wifi และ Wifi+3G ในรุ่นผลิตภัณฑ์เดียวกัน ดังนั้นก็ดูน่าจะมีความเป็นไปได้ว่า iPad 2 นี้อาจจะยังไม่ได้ภาคโทรศัพท์ที่ใช้ได้ทั้ง GSM และ CDMA ในชิ้นเดียวกัน จำเป็นที่จะต้องแยกรุ่นสำหรับ GSM และ CDMA ออกจากกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ว่ารุ่น CDMA จะมีการวางจำหน่ายเพียงแค่บางประเทศเท่านั้น

คาดว่าทาง Apple อาจจะเก็บ iPad2,2 ไว้เป็นรุ่นเพื่อการทดสอบภายในในการพัฒนารุ่นต่อ ๆ ไป ไม่ได้เป็นรุ่นที่ใช้วางจำหน่าย

ที่ว่าล้าอีกข้อคือ FaceTime และกล้องความละเอียดปานกลางที่จะถูกติดตั้งเพิ่ม เพราะถ้าติดตามข่าวเก่า เราก็จะพบว่านี่เป็นฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ iPod touch รุ่นที่ 4 ซึ่งฟีเจอร์นี้ถูกดึงออกไปจาก iPod touch รุ่นที่ 3 ซึ่งก็ได้มีการพบร่องรอยนี้เช่นเดียวกันใน iPad รุ่นแรก นั่นก็จะทำให้เราพอจะเชื่อมโยงได้คร่าว ๆ ว่า iPad 2 นั้นจะเป็นอุปกรณ์รุ่นนำร่องสำหรับ CPU ตระกูล ARM ตัวใหม่ที่ Apple เลือกใช้ แต่ก็จะถูกจำกัดด้วยฟีเจอร์ซึ่งจะมีออกมาเกินหน้าเกินตา iPod touch ไม่ได้ เพราะถ้าเกินไปมากก็ย่อมส่งผลต่อยอดขาย iPod touch ได้ ถึงแม้ว่าลักษณะรูปแบบการใช้งานจะแตกต่างกันก็ตาม แต่เราก็เชื่อว่ามีผู้ใช้บางคนยอมที่จะแบก iPad เพื่อไว้ใช้ฟังเพลงแทน iPod touch นั่นก็เพราะว่าจอใหญ่กว่า หรือด้วยเหตุที่คิดว่ามันเป็น iPod touch ขนาดใหญ่ ซื้อทีเดียวคุ้ม ฯลฯ

การที่ออก iPad มาให้มีฟีเจอร์ขี่ iPod touch นิด ๆ ก็ทำให้ Apple ไม่มีได้มีเสียมากที่ผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งจะไปแย่งชิงส่วนแบ่งจากผลิตภัณฑ์อีกตัวที่คล้าย ๆ กัน คนที่อยากได้ อย่างไรก็ซื้อหมดอยู่ดี WIN กับผลประกอบการเช่นเคย!